แม้ว่าการขายของออนไลน์หรือ E-commerce รวมไปถึงด้านเทคโนโลยีอย่าง AI หรือปัญญาประดิษฐ์ต่างเป็นสิ่งที่คนในปัจจุบันให้ความสนใจ ไม่ปฏิเสธว่าสิ่งเหล่านี้มีมูลค่ามหาศาลและสามารถสร้างกำไรให้กับผู้ประสบความสำเร็จได้อย่างท่วมท้น ทว่า…ในโลกนี้ก็ยังมีคนไม่สนใจสิ่งเหล่านี้อยู่ และคน ๆ นั้นคือ Qin Yinglin เจ้าของฟาร์มหมู มหาเศรษฐีอันดับ 3 ของจีนนั่นเอง
หากย้อนกลับไปในปี 1992 Qin Yinglin และภรรยา ซึ่งเรียนจบสาขาปศุสัตว์ด้วยกันทั้งคู่ ตัดสินใจเริ่มต้นทำฟาร์มหมูเล็กๆ ขึ้นในมณฑลเหอหนาน ในตอนนั้น พวกเขามีลูกหมูประมาณ 22 ตัว เหมือนโชคชะตาไม่เป็นใจ หลังเริ่มทำฟาร์มได้ไม่นาน เกิดโรคระบาดในหมูขึ้นพอดี ลูกหมูในฟาร์มตายไปเกินครึ่ง ยังโชคดีบ้างที่บางตัวสามารถรอดชีวิต และเติบโตขึ้นมาขายทำกำไรได้บ้างแม้จะได้กำไรน้อยลง แต่มันก็สร้างประสบการณ์อย่างหนึ่งให้กับ Qin ได้เป็นอย่างดี
ผ่านไป 8 ปี ธุรกิจฟาร์มหมูของเขา เติบโตขึ้นพร้อมๆ กับการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีน เขาและภรรยาจึงตัดสินใจตั้งบริษัท Muyuan Farming เพื่อความสะดวกในการทำธุรกิจมากขึ้น พร้อมกับลงทุนขยายฟาร์ม เพื่อให้เพียงพอกับการบริโภคที่มากขึ้นเรื่อยๆ แต่นั่นไม่ได้ทำให้เขาเป็นที่ยอมรับเลย เพราะในตอนนั้นธุรกิจฟาร์มถือเป็นธุรกิจที่ล้าหลังมาก ในขณะที่นักลงทุนคนอื่นเริ่มสนใจเรื่องของ AI หรือ E-Commerce Qin Yinglin กลับไม่สนใจและมุ่งหน้าจะพัฒนาฟาร์มของเขาต่อไป เขาขยายธุรกิจจนถึงขั้นเริ่มผลิตอาหารหมูเอง เพื่อใช้เลี้ยงดูหมูในฟาร์มจำนวนมาก และเพื่อลดต้นทุนลง จากนั้นก็เพิ่มธุรกิจโรงเชือดหมู เพื่อให้สามารถจัดการชำแหละและคัดแยกเนื้อหมู ออกขายให้ได้มาตรฐานเอง
ที่น่าสนใจที่สุดก็คือ.. บริษัทมีแผนกวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์หมูโดยเฉพาะ เพื่อสร้างสายพันธุ์ใหม่ๆ ขึ้นมา และถือครองสิทธิ์การเลี้ยงหมูสายพันธุ์ดีนั้น ต่อมา ทาง Qin Yinglin ได้ขยายกิจการโดยเข้าซื้อกิจการฟาร์มหมู รวมถึงการชักชวนเกษตรกรมาเลี้ยงหมูในเครือข่าย Muyuan Farming เพื่อสร้างเครือข่ายขนาดใหญ่มากยิ่งขึ้น
การเติบโตอย่างก้าวกระโดดตั้งแต่นั้น ทำให้ในที่สุดปี 2014 ธุรกิจเลี้ยงหมูแห่งนี้ก็สามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นได้ภายใต้ชื่อบริษัท Muyuan Foods ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับหมูแบบครบวงจร พอเข้าตลาดหุ้นได้ ก็ยิ่งมีเงินไปลงทุนขยายกิจการ สร้างรายได้ที่มากขึ้นกว่าเดิม จากในปี 2010 ตลอดทั้งปี บริษัททำยอดขายไปทั้งหมด 440 ล้านบาท แต่เพียงแค่สามเดือนแรกของปี 2020 สร้างรายได้ไปแล้วถึง 18,000 ล้านบาท!!
จากลูกหมูน้อยในตอนเปิดฟาร์มครั้งแรก 22 ตัว ในตอนนี้ธุรกิจของเขาผลิตอาหารหมูปีละกว่า 5 ล้านตัน ขายหมูปีละกว่า 7.2 ล้านตัว มีหมูเลี้ยงในระบบมากกว่า 10 ล้านตัว!! โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โรคระบาดของหมูเมื่อปีที่แล้วในประเทศจีน ยิ่งก่อให้เกิดผลดีต่อธุรกิจของ Muyuan Farming อยู่ถึง 3 อย่าง
อย่างแรกคือการที่ฟาร์มเล็กๆ มาตรฐานความสะอาดไม่ดี จะได้รับผลกระทบหนัก มีหมูติดโรคและล้มตายจำนวนมาก อย่างที่สอง ลามไปถึงธุรกิจโรงฆ่าสัตว์ที่ไม่ผ่านมาตรฐาน ก็จะถูกทางการสั่งปิดเพื่อควบคุมโรค ทำให้โรงขนาดใหญ่ มีรายได้มากยิ่งขึ้น อย่างที่สาม คือการขาดแคลนเนื้อหมู ส่งผลให้ราคาเนื้อหมูนั้นเพิ่มขึ้นกว่า 60% ประกอบกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ยิ่งทำให้อาหารกลายเป็นสิ่งจำเป็น เร่งผลักดันราคาเนื้อหมูในเพิ่มสูงขึ้นไปอีก
เหตุผลต่างๆ เหล่านี้ ทำให้รายได้ของธุรกิจเลี้ยงหมูแบบครบวงจรของเขาสร้างรายได้และผลกำไรได้มากขึ้น ท่ามกลางการขับเคี่ยวมหาเศรษฐีจีนที่ดุเดือด ของสองนักธุรกิจออนไลน์ ระหว่าง Jack Ma แห่ง Alibaba และ Ma Huateng แห่ง Tencent กลับมีมหาเศรษฐีคนที่สาม ก้าวขึ้นมาทาบรัศมี ซึ่งเขาไม่ได้มาจากธุรกิจทันสมัยอย่างอินเตอร์เน็ต หุ่นยนต์ ยา หรือทำอสังหาฯ
ธุรกิจที่เขาสร้างอาจจะดูล้าหลัง แต่จริงๆธุรกิจเขากลับมีความมั่นคงแทบที่จะไม่มีในประเทศจีนเลยด้วย เรื่องที่สอนให้รู้ว่า ถ้าเรามั่นใจในการทำอะไรซักอย่าง เราก็แค่ลงมือทำไป ไม่ต้องสนใจว่าคนอื่นจะทำอะไร แค่เรามีความเชื่อในสิ่งที่ทำ ผลลัพธ์มันจะออกมาดีเอง