ล้มยังไงให้กลับมายิ่งใหญ่กว่าเดิม กับ Reid Hoffman ผู้สร้าง Linkedin เว็บหางานอันดับ 1 ของโลก !

ล้มยังไงให้กลับมายิ่งใหญ่กว่าเดิม กับ Reid Hoffman ผู้สร้าง Linkedin เว็บหางานอันดับ 1 ของโลก !

วันนี้ Time Machine จะมาพูดถึงเรื่องราวของ Reid Hoffman ผู้สร้าง Linkedin เว็บไซต์หางานอันดับต้น ๆ ของโลก หากถามถึงความยิ่งใหญ่ของ Linkedin แล้วนั้น เว็บไซต์นี้ในปัจจุบันมีผู้ใช้งานมากกว่า 774 ล้านคนในกว่า 200 ประเทศทั่วโลก

โดยจะเทหนักไปทางสหรัฐอเมริกาที่มีผู้ใช้งานไปแล้วถึง 178 ล้านคน โดยนอกจากจะเป็นเว็บไซต์หางานแล้ว ยังเป็นเว็บไซต์สร้าง connection ทางธุรกิจ โดยสามารถสร้างรายชื่อติดต่อของคนที่เราต้องการจะสร้าง connection ด้วยผ่านระบบของ Linkedin ที่ชื่อว่า connection ทำให้เว็บนี้ เหมาะกับพวกนักธุรกิจ ผู้ที่กำลังหางาน ผู้ที่มองหา connection หรือ collaboration brand เป็นต้น 

อย่างไรก็ตาม กว่าที่เขาจะร่ำรวยได้ขนาดนี้ เขาเองก็เคยล้มเหลวมาก่อนเช่นกัน เขาเคยสร้างแพลตฟอร์มธุรกิจเว็บไซต์ชื่อ Socialnet ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับแอปหาคู่ในปัจจุบันเมื่อปี 1997 เพื่อให้คนมาคุย สร้างสัมพันธ์จะแบบเพื่อนหรือแฟน ซึ่งก็เหมือนจะได้รับความสนใจในช่วงแรก แต่พอโฆษณาลงหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น กลับมีคนมาใช้งานจริงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทำให้ต้องปิดตัวลงและถูกขายทอดตลาดให้กับทาง Matchnet เว็บหาคู่คู่แข่งไป

เขาเคว้งอยู่พักหนึ่ง เพราะธุรกิจเว็บไซต์ที่เขาถนัดไปได้ไม่ดี แต่สวรรค์ก็ยังเข้าข้าง เพราะในปี 1998 เขาได้รับเชิญจาก Peter Thiel หนึ่งในผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ Paypal ซึ่งตอนนั้นเป็นช่วงบุกเบิกพอดี  โดย Reid Hoffman กลายมาเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ Paypal ประสบความสำเร็จ และขายให้E-bay ไปได้ในราคาถึง 1.5พันล้านเหรียญ และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ฮอฟแมนคิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะออกมาก่อตั้งบริษัทเป็นของตัวเอง

ทำให้ในที่สุดในปี 2002 บริษัท Linkedin ก็ถือกำเนิดขึ้น 

เขาระลึกได้ว่า ถ้าทำแบบเดิม คงไม่แคล้วต้องพังแบบตอนทำ Socialnet แน่ ๆ  ตัวฮอฟแมนจึงได้ปรับลักษณะโครงสร้างทางบริษัทใหม่ไม่ให้ซ้ำกับตอนทำ Socialnet หรือก็คือ ไม่เลือกใช้คนจากชุดเดิมที่ทำงานกับเขาตั้งแต่สมัย Paypal กับ Socialnet เพราะไม่อยากให้ความผิดพลาดแบบเดิมเกิดขึ้นอีก 

เขาตัดสินใจไม่ใช้คนมีประสบการณ์เฉพาะทาง แต่เลือกพนักงานที่ทำงานได้หลากหลายแทน เพราะจะได้ไม่ต้องจ่ายเงินไปกับค่าแรงงานราคาแพง รวมถึงเปลี่ยนโฟกัสมาเน้นความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก มากกว่าการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพราะหัวใจหลักของธุรกิจคือลูกค้าที่คอยสนับสนุน นอกจากนี้ เขายังมองว่า การตลาดแนวสร้างความบันเทิงในปีนั้นถูกยึดครองด้วย Facebook ที่เปิดตัวในปีเดียวกัน แทนที่จะสร้างแพลตฟอร์มทางความบันเทิงอย่าง Facebook ก็ลองสร้างแพลตฟอร์มทางธุรกิจดีกว่า 

ทำให้เขาสร้าง Linkedin เป็นเว็บไซต์การสร้าง connection กับ job seeker

โดยเฉพาะซึ่งมีระบบที่ดีกว่า Facebook ที่เปิดตัวในปีเดียวกัน ทั้งในเรื่องความปลอดภัย เรื่องความน่าเชื่อถือ และเรื่องงานที่ได้มาตรฐานมากกว่า รวมถึงการเปิดตัวเป็นเว็บแรก ๆ ที่ทำเกี่ยวกับเรื่องงานและ connection ทำให้ไม่ถูก Facebook แย่งส่วนแบ่งทางการตลาดและกลุ่มลูกค้า และสร้างรายได้ให้กับเขามหาศาล

Linkedin เริ่มเล็งธุรกิจขนาดเล็กให้มาเป็นสมาชิกเพื่อประโยชน์ทาง connection โดยเปิดตัว feature ต่าง ๆ เช่น สมุดที่อยู่ การสร้างกลุ่มสัมพันธ์ นั่นทำให้สมาชิกจากหลายพัน ขยับขึ้นเป็นหลายหมื่น จนปี 2005 สมาชิกก็แตะเจ็ดหลักพอดี ซึ่งมีระบบสมาชิกแบบเสียเงิน ทำให้บริษัทมีรายได้ขึ้นมาอย่างก้าวกระโดด จนกระทั่งเริ่มมีสำนักงานแพร่ขยายไปทั่วโลกในปี 2008 จนมาถึงจุดพีคที่ทาง Microsoft ได้เข้ามาขอซื้อกิจการในปี 2016 และทำให้ฮอฟแมนได้ก้าวสู่ตำแหน่งผู้บริหารในบริษัทไมโครซอฟ์ทเต็มตัว 

ในปัจจุบัน Linkedin มีสมาชิกรวมถึงรายได้ที่เพิ่มขึ้นทุก ๆ ปี 

คาดว่าแพลตฟอร์มของเว็บนี้จะเติบโตขึ้นอีกแน่นอนในอนาคต เพราะเป็นแหล่งชั้นนำในการสร้าง connection ที่ยังไม่มีเว็บใดสู้ได้ แม้ว่าเขาจะเคยเปิดตัวเว็บหาคู่และล้มเหลวกับมันจนมีช่วงเวลาหนึ่งที่เคว้งไป แต่การกลับมาของเขาก็เรียกได้ว่ายิ่งใหญ่กว่าเดิมมาก ไม่มีใครรู้เลยว่าหากวันนั้นเขาไม่ได้ทำผิดพลาดล้มเหลวมาก่อน วันนี้เขาอาจจะไม่มีประสบการณ์มากพอที่จะทำให้ตัวเองยิ่งใหญ่แบบนี้ก็ได้ เพราะฉะนั้น จงเคารพความผิดพลาดในอดีต แล้วใช้มันปูทางไปสู่อนาคตที่ยิ่งใหญ่ แบบเดียวกับที่ รีด ฮอฟแมน ทำครับ