ในวงการอุตสาหกรรมปัจจุบันนั้น จัดเป็นหนึ่งในธุรกิจที่มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด เพราะไม่ได้มีการแข่งขันเรื่องคุณภาพและราคาของเครื่องจักรแค่ในประเทศเท่านั้น แต่ยังต้องแข่งกันในระดับสากลอีกด้วย ซึ่งวันนี้ เราได้นำหนึ่งในผู้ประสบความสำเร็จทางด้านธุรกิจอุตสาหกรรม อย่างคุณโอ อภิสิทธิ์ แตงถมยา มาเล่าเรื่องราวน่าเหลือเชื่อของเขา ผู้ซึ่งผลักดันบริษัทธรรมดาให้กลายเป็น ONI Smart Factory บริษัทอุตสาหกรรมชั้นนำระดับโลก
เดิมที คุณโอเคยเป็นเซลล์มาก่อน แต่เพราะการมองเห็นแนวคิดบางอย่างเกี่ยวกับอุตสาหกรรม ผนวกกับเทรนด์การนำเข้าสินค้าเพื่อพัฒนาวงการอุตสาหกรรมในไทย ทำให้คุณโอผันตัวจาก sales มาเปิดบริษัทของตนเอง คือ ONI Intertrade Group ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้านำเข้าประเภทอุตสาหกรรมเพื่อเป็น Supply ให้กับวงการอุตสาหกรรมไทย
70% ในภาค Industrial ของประเทศไทยคือ OEM ซึ่งการคืนทุนของเครื่องจักรอาจใช้เวลา 4 ถึง 5 ปี แต่ช่วง for cash ที่คุณรับผลิตอาจจะอยู่เพียง 1-2 ปี และเทคโนโลยีก็เกิดการเปลี่ยนแปลงเร็วมาก ปีเดียวก็เปลี่ยนแล้ว ทำให้เกิดระบบเช่าขึ้นมา เพื่อให้สามารถอัพเดตข้อมูลของเครื่องจักรในช่วงนั้นได้ และหากเกิดการเปลี่ยนแปลงก็สามารถ invest เครื่องจักรตัวใหม่ลงไปได้ ไม่ต้องทนใช้เทคโนโลยีเดิม ซึ่งนั่นก็ตรงกับสิ่งที่ ONI Intertrade ทำ คือนำเข้า ให้เช่าและจำหน่ายเครื่องจักรคุณภาพส่งตรงจากต่างประเทศ
คุณโอเห็นต่างจากบริษัทในอดีต
ที่มองว่า ค่า service และค่าอะไหล่นั้นเป็นรายได้สำคัญของบริษัท เขาจะต้องไม่ให้ความรู้กับลูกค้า เพราะถ้าลูกค้าทำเป็นก็ไม่ต้องจ้างเขาซ่อม เขาจะไม่มีกำไรและยอดขาย แต่กลับมองว่าการที่ลูกค้ามีช่างซ่อมเยอะ ๆ หรือมีความรู้ด้านเครื่องจักรนั้นเป็นสิ่งที่ดี เพราะ หากทำให้ตลาดโตขึ้น และลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำกับเราจะยั่งยืนมากกว่า ซึ่งทางบริษัทจะมีการสอนให้ลูกค้าทำเป็นและ supply อุปกรณ์ให้
ปัจจัยที่ทำให้ ONI Intertrade นั้นสำเร็จ คงหนีไม่พ้นการมี partner
จากประเทศชั้นนำด้านอุตสาหกรรมหลายประเทศ เช่น อเมริกา ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นตัวชี้วัดถึงเทรนด์อุตสาหกรรมที่ส่งผลต่อภาคธุรกิจของบริษัท ซึ่งสามารถดูลักษณะแนวโน้มได้จากประเทศที่พัฒนาแล้วเหล่านี้ และรู้ถึงแนวโน้มการแข่งขันด้านต้นทุนจากประเทศอื่น ๆ ที่มีลักษณะสินค้าคล้ายกัน ซึ่งจำเป็นต้องหาเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมมันแตกต่างและโดดเด่นกว่าที่อื่นให้ได้มากที่สุด
สิ่งที่ทำให้ ONI Intertrade แตกต่างจากที่อื่น
เริ่มต้นจากแนวคิดที่เรียกว่า ลูกค้าเป็น partner หากคิดแบบนี้ เราจะต้องทำให้ลูกค้าเติบโตไปพร้อมกับเรา ทั้งให้คำแนะนำ Matching ให้กับบริษัทใหญ่ ๆ เพื่อส่งมอบงานลูกค้าต่อ และจะต้องเน้นใช้มาตรฐานแบบ Japan Quality เพื่อช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับตลาดและภาพรวมของบ้านเรามากขึ้น ซึ่งบริษัทคุณโอถึงกับเคยช่วยซ่อมแซมเครื่องจักรของบริษัทลูกค้า และช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายไปกว่าหลายสิบล้านมาแล้ว
99 % ของลูกค้าที่ซื้อสินค้าไปจากบริษัทตัดสินใจที่จะกลับมาซื้อซ้ำ
โดยจะมีการ develop ซึ่งกันและกัน ติดต่อกันอย่างสม่ำเสมอ ถึงทางลูกค้าจะไม่ได้ซื้อเครื่องจักร ทางบริษัทก็ยังมีบริการหลังการขายที่จะเข้าไปดูแลลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ ทำให้เรากับลูกค้าสามารถเดินไปข้างหน้าด้วยกันได้ ต่อไปในอนาคต Global Trend ต้องมีบทบาทในวงการอุตสาหกรรมมากขึ้น เราต้องรู้จักเชื่อมโยงหรือศึกษาหาข้อมูลกับํธุรกิจแบบเดียวกันที่อยู่ต่างประเทศ เพื่อศึกษาเทรนด์และราคาของเครื่องจักรแต่ละชนิด
ในปัจจุบัน เราต้องแข่งกับต่างประเทศ ฉะนั้นเราต้องทำงานให้ดีกว่าที่ลูกค้าคาดหวัง เพราะไม่เช่นนั้น คุณอาจจะเป็นรายแรก ๆ ที่จะหลุดจากระบบนี้ไปก็เป็นได้