ฝ่าวิกฤติรอบด้าน เพื่อยืนหยัดสื่อการสอนสำหรับเด็กในยุค Digital disruption​ | เอด อัครพล

ฝ่าวิกฤติรอบด้าน เพื่อยืนหยัดสื่อการสอนสำหรับเด็กในยุค Digital disruption​ | เอด อัครพล

ฝ่าวิกฤติรอบด้าน ทั้งสุขภาพและความเครียดที่เข้ามาจู่โจม เพื่อยืนหยัดสื่อการสอนสำหรับเด็ก”

จากธุรกิจสื่อการสอนสำหรับเด็ก ที่ควรจะได้รับผลกระทบสูงมากในยุค Digital disruption​
แต่สำหรับ เพอลังอิ พับลิชชิ่ง ภายใต้การบริหารของคุณเอด​ ทำให้พวกเขายังคงยืนหนึ่งในธุรกิจนี้ได้อย่างมั่นคง

เขามีวิธีการจัดการอย่างไร? มาย้อนเวลาไปฟังแนวคิดจาก”คุณเอด อัครพล วัฒนสิน” กันครับ

คุณเอด อัครพล วัฒนสิน ปัจจุบันเป็นกรรมการบริษัท เพอลังอิ พับลิชชิ่ง (Pelangi Publishing) ประเทศไทยจำกัด เป็นบริษัทที่ร่วมทุนกับประเทศมาเลเซียเกี่ยวกับสิ่งพิมพ์ สื่อการศึกษาสำหรับเด็กทั้งออฟไลน์และออนไลน์

จุดเริ่มต้นธุรกิจมาจากไหน

เริ่มต้นมาจากคุณลุงที่ร่วมทุนกับบริษัทแม่ที่มาลาเซีย ซึ่งเริ่มแรกยังไม่ได้ประสบความสำเร็จมากนักจนกระทั่งเราได้เข้ามาทำธุรกิจ และก็สานต่อมาเรื่อย ๆ จนถึงปัจจุบัน

แล้วจุดแข็งของธุรกิจคุณเอดล่ะครับ

การมีสินค้าที่มุ่งเป้าไปยังการศึกษาของเด็กนักเรียนผนวกกับการมี connection ที่ดีกับคุณครูและโรงเรียนต่าง ๆ ตามมาด้วยราคาที่ค่อนข้างถูก และสินค้านั้นมีการพัฒนาให้เหมาะกับเด็กประเทศเราและแถบทวีปเอเชีย โดยมีการนำเทคโนโลยีผสมผสานกับสื่อของบริษัท เช่น การใส่ความเป็นดิจิทัลลงในหนังสือ การใช้ Augmented Reality (AR) ทำให้สินค้าของบริษัทนั้นเป็นมากกว่าสื่อสิ่งพิมพ์สำหรับเด็ก

จุดที่ทำให้ธุรกิจสำนักพิมพ์ของคุณเอดสำเร็จคืออะไรครับ

บริษัทเพอลังอิ พับลิชชิ่งมีหลายสาขา ตั้งแต่สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และไทยซึ่งก่อตั้งมาพร้อมกัน และสินค้าส่วนใหญ่ของบริษัทจะเกี่ยวข้องกับการศึกษาสำหรับเด็ก เช่น หนังสือ สื่อการสอนโดยเน้นหนักไปทางภาษาอังกฤษและมีหนังสือหลากหลายวิชา เช่น วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ โดยเน้นการส่งเสริมด้านภาษาไปในตัว ซึ่งตัวบริษัทก่อตั้งมากว่า 40 ปีแล้ว และได้ปรับปรุงพัฒนาสินค้ามาตลอดจนในปัจจุบันสามารถนำไปขายให้กับต่างประเทศทั่วโลกได้แล้ว หรือการออกงานสินค้าที่ต่างประเทศก็สามารถขายลิขสิทธิ์ให้กับลูกค้าต่างประเทศเช่นกัน ทำให้สินค้าเรามีความเป็นสากลมากขึ้นโดยเน้นการผลิตที่ไทย

ความภาคภูมิใจของเพอลังอิล่ะครับ

การได้เป็นอันดับหนึ่งในแง่ธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ แม้ในปัจจุบันก็คิดว่าตนเองยังเป็นอันดับหนึ่งอยู่ เพียงแต่มีคู่แข่งทำตามเรามากขึ้น แต่เราก็ยังเป็น Master ให้คนอื่นดูเป็นผลงานแม่แบบได้ และแม้กระทั่งตอนนี้ เราก็ยังครองพื้นที่อยู่ นั่นคือความภูมิใจของบริษัทเรา

เมื่อ 10 ปีที่แล้วกำลังทำอะไรอยู่

เป็นช่วงที่กำลังมีไฟในการทำงาน และให้กำเนิดลูกคนแรก เป็นช่วงวัยที่สนุกสนานและพยายามแสวงหาความสำเร็จ เริ่มมีตำแหน่ง มีเงิน เริ่มเขียนหนังสือนิทานเริ่มแรกโดยใช้ชื่อเดียวกับลูกสาวซึ่งประสบความสำเร็จตั้งแต่เริ่มแรก

มีจุดที่เราล้มเหลวไหมในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา

พวกปัญหาสุขภาพ ทุกสิ่งทุกอย่างถาโถมเข้ามา พวกปัญหาความดัน คอเลสเตอรอลสูง นอนไม่หลับ ทั้งที่ออกกำลังกายอยู่เป็นประจำ แต่ในฐานะที่ตอนนี้ใช้ชีวิตแบบคนเมืองที่เต็มไปด้วยเสียง สี และเสียง ทำให้ยังปรับตัวได้ไม่ดีเท่าไรนัก

10 ปีที่แล้ว คิดว่า 10 ปีต่อมาเราจะมาถึงจุดนี้ไหม

ไม่ได้คิดไว้เลย พอเราโตขึ้นก็ต้องการทำงานในสิ่งใหม่ ๆ อาจมีความเป็นจิตอาสา สมาคม ทั้งเหนื่อยขึ้น และยังมีความต้องการปาร์ตี้อยู่ ไหนจะเรื่องครอบครัวอีก ช่วง 45 นี่ถ้าไม่มีเงินจะเป็นช่วงชีวิตที่เหนื่อยมากจริง ๆ

หากย้อนกลับไปได้อยากแก้ไขอะไร

ไม่คิดจะแก้ไขอะไรในอดีต เพราะอดีตถือเป็นบทเรียน เราจะไม่รู้หรอกว่าเกิดความผิดพลาดอะไรหากไม่มีอดีต

ภาพรวมของธุรกิจที่คุณเอดมองไว้ในอีก 1 ปีข้างหน้า

ธุรกิจนี้มองไว้ว่าให้เติบโต ก้าวหน้า มั่นคง และอยากให้ทุกคนในองค์กรมีความสุข อย่างน้อยก็เกิดความภูมิใจที่ตนเองเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมการศึกษาแก่เด็ก

แล้วอีก 1 ปีข้างหน้า อยากทำอะไรเพิ่มเติมไหม

ก็มีก็มองธุรกิจอื่นไว้บ้าง ร่วมหุ้นกับคนอื่น ซึ่งดีบ้าง เจ๊งบ้างก็ไม่เป็นไร อันไหนดีก็ดีไป อันไหนไม่ดีก็เป็นประสบการณ์สอนไป

ฝากอะไรทิ้งท้ายให้คนดูหน่อยครับ

บริษัทเพอลังอิ ประเทศไทย และสำนักพิมพ์คิดส์บวกทำหนังสือเกี่ยวกับห้องเรียน EP โดยเฉพาะที่ตรงตามหลักสูตรไทย และคิดส์บวกมุ่งเน้นไปที่สื่อการสอนรูปแบบต่าง ๆ นิทานสำหรับเด็กและเยาวชนไปจนถึงสื่อดิจิทัล และเชื่อมั่นว่าแบรนด์ของเราจะพัฒนาและยกระดับเด็กไทยให้มุ่งสู่ระดับสากลได้

Pelangithai หนังสือและสื่อการเรียนรู้
Facebook : Pelangithai หนังสือและสื่อการเรียนรู้
Website : http://www.pelangithai.com/
E-mail : ppt@pelangibooks.com
Tel : 098 964 1524