“สำเร็จไม่สำเร็จไม่เป็นไร ดีกว่าเสียใจที่ไม่ได้ทำ” คุณด่อง อัษฎา ผู้เริ่มกระแส UKULELE ในไทย
10 ปีที่แล้วกำลังทำอะไรอยู่ครับ
ตอนนั้นทำงานเป็นนักการเงินที่ตลาดหลักทรัพย์ตั้งแต่ปี 1998 – 2008 โดยมีหน้าที่คือเป็นที่ปรึกษาให้กับนักลงทุนและกองทุนรวม หุ้นกู้ การลงทุนต่างประเทศ แต่ใจคุณเรากลับชอบดนตรีมากกว่า แต่ดันไปเรียนจบปริญญาโททางด้านการเงินเพราะทางบ้านคิดว่าให้เรียนในสาขาที่ใช้จริงได้มากกว่า
ช่วงที่ยากลำบากที่สุดคือตอนไหนครับ
ตอนวิกฤตฟองสบู่แตกในปี 1998 ซึ่งในช่วงนั้นหลังจากจบปริญญาตรี คณะเศรษฐศาสตร์ก็ได้ไปสอบเข้าคณะดนตรี ซึ่งช่วงนั้นค่าเงินบาทจากยี่สิบบาทมาเป็นห้าสิบกว่าบาท รู้สึกมันไม่คุ้มเพราะเรารู้ว่ากว่าจะได้ค่าเรียนคืนเป็นไปได้ยาก จึงมาทำงานสายการเงินแต่ว่าก็ทำเพลงมาโดยตลอด
จุดที่ทำให้ลาออกจากงานคืออะไร
ระหว่างที่ทำอยู่ในบริษัทหลักทรัพย์ก็ขายอุปกรณ์ดนตรีไปด้วยในตัว ซึ่งทำให้เกรงใจทางบริษัทเพราะแบ่งเวลามาทำด้านดนตรีค่อนข้างมาก จึงตัดสินใจลาออก เพราะคิดว่าทำแล้วไม่รุ่งจากสาเหตุที่รู้สึกว่ามันไม่ใช่ตัวเรา เพราะถ้าทำอะไรที่เราชอบน่าจะทำให้ประสบความสำเร็จมากกว่า พอเปลี่ยนมาทางดนตรีก็มีรายได้ดีขึ้น มีความสุขมากขึ้นด้วย
แล้วจุดเริ่มต้นในการขาย UKULELE ล่ะครับ
เพราะความอยากได้ในสมัยเด็ก (ซึ่งแต่ก่อนเรียกว่าขอนน้อย ) ซึ่งตอนนั้นยังไม่เป็นที่นิยมมากในไทย เหมือนคล้ายเป็นเครื่องดนตรีแถมเสียมากกว่า จนกระทั่งได้ฟังเพลงฮาวายที่เล่นโดยใช้ UKULELE จึงอยากมีบ้าง แต่เมื่อเมืองไทยนั้นแทบจะไม่มีร้านใดชำนาญพอจึงบินไปซื้อถึงประเทศญี่ปุ่น ซึ่งก็ได้นำกลับมาและรู้สึกว่าอยากลองเล่นหลาย ๆ รุ่นเพื่อลอง แต่บอกคนอื่นว่าขายเพราะเราซื้อมาเยอะไป และเริ่มขายจริงในเวลาต่อมา
สิ่งที่ทำให้ UKULELE เป็นที่รู้จักเกิดจากอะไรครับ
ลองสร้างเว็บบอร์ดรวมกลุ่มคนเล่นเครื่องดนตรีอูคูเลเล่จำนวนกว่า 50000 คนและจัด workshop หรือ training และกลายเป็นการจัดประกวดการเล่น UKULELE แห่งประเทศไทยที่สวนหน้าบ้านตนเอง หนึ่งในนั้นก็คือคุณสิงโต นำโชคซึ่งได้เป็นแชมป์ในเวลาต่อมา พอคุณสิงโตได้นำ UKULELE ไปใส่ในเพลงก็เกิดเป็นสิ่งที่ทำให้การเล่น UKULELE กลายเป็นที่รู้จัก
แล้วจุดเริ่มต้นของร้านคุณด๋องคืออะไร
โดยการเปิดร้านนั้น เริ่มแรกก็ยังไม่เปิดเพราะต้องการฝึกทักษะของตนเองก่อน หากคนขายสอนมั่วแล้วก็คงจะไม่มีความน่าเชื่อถือ จึงเปิดสอนฟรีอยู่หลายเดือนกว่าจะได้เปิดร้าน แต่ระยะแรกของก็ไม่ค่อยมี จนพอของเยอะขึ้นก็เริ่มขายได้
คิดว่าธุรกิจในอีก 10 ปีข้างหน้าจะเป็นยังไง
อยากทำให้จริงจัง หรือยิ่งใหญ่กว่านี้ อยากให้เครือข่ายหรือตัวแทนเยอะขึ้น และอาจต้องปรับระบบภายในร้านหรือทำการตลาดใหม่ เช่น การรับบัตรเครดิต รับการผ่อน หรือโปรโมทผ่านออนไลน์
อยากบอกอะไรกับคนที่อยากทำในสิ่งที่ตนเองชอบ
หากอยู่ในวัยเรียน ทำอย่างที่ทำ ดับเครื่องชน ไม่งั้นโตมาอาจจะเสียดายแล้วไปวัดกันหน้างาน
อยากบอกอะไรกับตนเองใน 10 ปีที่ผ่านมา
ช่วงเราเหนื่อย ๆ ก็อาจทำให้คนอื่นไม่ประทับใจ อยากให้ตัวเองทำตัวให้น่ารักกว่านี้ อยู่แบบเล็ก ๆ ไม่ต้องขยายจนไม่มีเวลา ซื้อได้ก็ดี ไม่ต้องเช่าแล้วชีวิตจะดีกว่านี้เยอะ