หมอหนุ่ม นพ. นัทธพงศ์ จิรุระวงศ์ CEO และเจ้าของคลินิก Dr.tattof ทั้ง 10 สาขา
ตั้งแต่สมัยผมเรียนหนังสือคุณพ่อเป็นหมอเหมือนกัน เป็นหมอผิวหนังอยู่ที่ชลบุรี ที่ชื่อว่านิพนธ์คลินิก พอดีว่ามีช่วงหนึ่ง ช่วงวิกฤตของครอบครัวเลย ก็คือคุณพ่อเสีย และได้เข้ามาแทนที่คุณพ่อที่เสียไปที่คลินิกมีนวัตกรรมเลเซอร์และนวัตกรรมเกี่ยวกับเรื่องความงาม เข้ามาค่อนข้างเยอะ เราก็ต่อยอดโดยการที่นําเครื่องมือจากต่างประเทศเข้ามาที่นิพนธ์คลินิก เพื่อขยายเซอร์วิสต่างๆ มันมีเครื่องมืออยู่ตัวหนึ่งตอนนั้นที่ผมเอาลองมาทําดู ก็คือเป็นเลเซอร์เกี่ยวกับลบรอยสัก มีเพื่อนชวนว่ามาทําคลินิกที่กรุงเทพสิ เพราะว่าเขาอยากใช้เซอร์วิสเราก็เลยมาเปิด Dr.tattof ซึ่งเป็นศูนย์ที่พัฒนาในเรื่องของการรักษาลบรอยสักโดยเฉพาะซึ่งในตอนนั้น มีเครื่องมือที่ชื่อว่า Picoway เข้ามาในประเทศไทย เราก็เลยนําเข้าเครื่องมือ เข้ามาเป็นที่แรกของในประเทศไทยที่ใช้เครื่องมือที่ทันสมัยที่สุดและปลอดภัยที่สุดในการลบรอยสัก
8ปีที่ผ่านมา Dr.tattof เปลี่ยนไปยังไงบ้าง
จริงๆคอนเซ็ปต์ของเรา ยังคงเดิม แต่ว่าตั้งแต่วันแรกที่เราเปิดสาขาแรกแล้วเราขยายขึ้นมาเรื่อยๆ เราก็พยายามขยายในส่วนของ service ต่างๆให้เพิ่มมากขึ้น โดยเรายังยืนคอนเซ็ปต์ว่า ทุก service ของเราใช้เลเซอร์เป็นหลัก แล้วเราก็มีการขยายserviceต่างๆ ตอนนี้น่าจะเกือบ 10 service
ทําไมลูกค้าถึงต้องตัดสินใจมาลบรอยสักที่ Dr.tattof
อย่างแรก เราคิดว่าเราคงคอนเซ็ปต์ของในเรื่องของการลบรอยสักแล้วเราพัฒนาคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นบุคลากรหรือเป็นการหัตถการต่างๆให้มีความปลอดภัยให้คนไข้ได้คุณภาพที่สูงที่สุดในราคาที่จับต้องได้ แล้วเราใช้เครื่องมือดีระดับโลก ทําให้เราสามารถที่จะพัฒนาตัวเองในไปได้เรื่อยๆ หลังจากที่เราเปิดมาเราก็ได้รับรางวัลมากมาย ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการ management เรื่องของการใช้เครื่องมือที่ปลอดภัย แล้วก็ใช้เยอะที่สุดในภูมิภาคเอเชียด้วยก็เป็นสิ่งที่เราภาคภูมิใจระดับหนึ่ง
ช่วงไหนเป็นช่วงที่ยากลำบากที่สุดในการทำธุรกิจ
มี 2 ช่วง
1.ช่วงเริ่มต้น เป็นช่วงที่วัดใจหรือว่าเราจะลุยกับมันขนาดไหน
2.ช่วงโควิดที่ผ่านมาเป็นช่วงที่เราโดนปิดหมดทุกสาขาเพราะเราอยู่ในห้างทั้งหมด
เคยมีช่วงไหนที่รู้สึกยอมแพ้ไม่อยากทำบ้างไหม
ช่วงยอมแพ้ไม่เคยมีเลย เพราะว่าจริงๆเป็นคนตั้งใจกับสิ่งที่ตัวเองทำแล้วก็ค่อนข้างมั่นใจ เพราะว่าผมเป็นคนชัวร์ ถ้าอะไรไม่ชัวร์ผมจะไม่ทำ เพราะว่าทุกสิ่งที่ทำค่อนข้างตั้งใจและมั่นใจว่าทุกสิ่งที่ทำต้องประสบความสำเร็จ
กลยุทธ์ไหนที่ทำให้ Dr.tattof ประสบความสำเร็จ การพัฒนาคน พัฒนาบุคลากร พัฒนาเรื่องของเทคโนโลยีต่างๆทำให้ลูกค้า มีการบอกต่อ
แต่สิ่งแรกคือเราต้องทำเซอร์วิสของเราให้ดีที่สุดงานให้คนประทับใจ marketing ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คนรับรู้ว่ามีแบรนด์ของเราอยู่แต่เมื่อเขาเดินเข้ามาที่คลินิกเราแล้วเนี่ยรอยยิ้มกลับไปและทุกครั้งที่ และที่นี่ก็ให้คำปรึกษาฟรีกับผู้เชี่ยวชาญ
