เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินชื่อ Steve Jobs ซีอีโอคนเก่งของบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำอย่าง Apple ที่เป็นผู้พัฒนาทั้งไอโฟน ไอแพด แอร์พอต และอื่น ๆ อีกมากมาย เรียกได้ว่าเป็น 1 ในบริษัทเทคโนโลยีที่มูลค่ามากที่สุดในโลกด้วยมูลค่ามากกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
แต่แม้ว่าใครต่อใครจะเรียกเขาว่าอัจฉริยะผู้ปั้น Apple มาก็ตาม แต่เชื่อหรือไม่ว่าครั้งหนึ่ง เขากลับถูกบริษัทที่ตนเองสร้างมากับมือไล่ออก !
ย้อนกลับไปในปี 1983 ตอนเขาเริ่มก่อตั้งบริษัทแรก ๆ
ทางสตีฟ จ็อบส์ได้เชิญ CEO ของบริษัท Pepsi ในตอนนั้นที่ชื่อ John Sculley มาเป็น Ceo ให้บริษัท Apple เพราะตัวเขาตอนนั้นยังใหม่ในวงการธุรกิจอยู่ โดยทั้งคู่ร่วมผลักดันโปรเจ็ค LISA คอมพิวเตอร์เครื่องแรกที่ใช้ระบบภาพหน้าจอออกมาขายในราคาหมื่นเหรียญ แน่นอนว่าขาดทุน เพราะราคาที่แพงเกินไป
ทั้งคู่เริ่มขัดแย้งกันเล็กน้อย แต่ก็ยังร่วมกันผลักดันอีกโครงการหนึ่งคือ เครื่องคอมพิวเตอร์ Mcintosh ออกมาวางจำหน่าย โดยจ็อบส์ต้องการขายแค่ 2000 ดอลลาร์จากครั้งที่แล้วที่รู้สึกว่ามันแพงเกินไป แต่ทางจอห์นกลับอยากให้ขายที่ 2500 ดอลลาร์ เพราะอยากให้บริษัทมีกำไรจากการขาดทุนครั้งที่แล้ว
แน่นนอนว่าบอร์ดบริหารทุกคนเชื่อสิ่งที่จอห์นพูด และผลสุดท้ายคือ ยอดขายก็กระเตื้องขึ้นมานิดเดียว ไม่สามารถฟื้นฟูบริษัทได้เลย ทางบอร์ดบริหารทุกคนกลับโทษจ็อบส์ว่าเขาผลิตเครื่องที่ใช้ทรัพยากรราคาแพงที่เข้าไม่ถึงคน และเริ่มถูกลดบทบาทลงทีละน้อย จนในที่สุด มติที่ประชุมก็โหวตให้เขาออกจากการทำงานที่ Apple ในที่สุด
แต่หารู้ไม่ว่า Apple ได้ทำผิดพลาดครั้งใหญ่เสียแล้ว
หลังถูกไล่ออกจากบริษัทที่ตนเองตั้งมา จ็อบส์ก็ได้ก่อตั้งบริษัท Next Company ที่ยกระดับคอมพิวเตอร์ขึ้นไปอีกขั้น แม้ว่ายอดขายจะไม่ดีมาก เพราะราคาที่แพงเกินไป (อีกแล้ว) แต่ระบบปฏิบัติการของ Next หรือ NextStep กลับได้รับความนิยมมากกว่า ซึ่งนี่ก็เป็นจุดกำเนิดของการสร้าง www (เวิร์ลไวด์เว็บ) ขึ้นมา เพราะทางผู้สร้างคนแรกก็ใช้คอมพิวเตอร์ของทาง Next ที่จ็อบส์ทำในการคิดค้นเว็บไซต์ที่เราใช้กันในปัจจุบัน
นอกจากนี้ ทางจ็อบส์ยังได้ก่อตั้งบริษัท Pixar บริษัทอะนิเมชันชื่อดังที่ทำการ์ตูนประสบความสำเร็จมาแล้วหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น Toy Story, นีโม่ และอื่น ๆ อีกมากมาย
กลับกัน ทาง Apple ที่เปิดตัว Apple Newton เครื่องเขียนของ Apple ภายใต้การบริหารงานของจอห์นนั้นก็ล้มเหลว ยิ่งไปกว่านั้น ความผิดพลาดที่ใหญ่ที่สุดของ Sculley คือการเดิมพันอนาคตของ Apple กับโปรเซสเซอร์ชนิดใหม่ที่เรียกว่า PowerPC แอปเปิลต้องเสียเงินจำนวนมากในการเปลี่ยนการออกแบบให้ดีกว่าของที่อยู่ในตลาด และทำให้ราคา Mac ที่วางจำหน่ายมีราคาสูง เมื่อเทียบกับโปรเซสเซอร์ที่ใช้ Intel x86 นั้นได้รับความนิยมมากกว่าและมีราคาถูกกว่า ทำให้จอห์นนั้นก็ต้องเอาตัวเองออกจากบริษัทไม่ต่างกับจ็อบส์
ทาง Apple เห็นว่าปล่อยไว้แบบนี้ต้องไม่ดีแน่ จึงยอมหักหน้าซื้อบริษัท Next ของจ็อบส์ในราคา 429 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อให้เขากลับมาทำงานให้ทาง Apple อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งทางจ็อบส์ก็ได้ทำการฟื้นฟู Apple ก่อนที่บริษัทจะเข้าสู่ภาวะล้มละลาย ด้วยการประกาศร่วมมือกับบิล เกตต์ คู่แข่งจากบริษัท Microsoft ซึ่งทางบิลล์ เกตต์ได้ซื้อหุ้นของทาง Apple ไปมากกว่า 4700 ล้านบาท ทำให้มีเงินทุนพอหมุนเวียนให้บริษัทไปต่อได้
เข้าสู่จุดพีคในช่วงปี 1998 ที่ทาง Apple ฟื้นตัวกลับมาเต็มที่
ด้วยการเปิดตัวคอมพิวเตอร์ iMAC ที่ทำได้ทุกอย่างแบบครบวงจรในราคาที่ไม่แพง ส่งผลให้บริษัทเริ่มมีกำไรขึ้นมาอีกครั้ง และก้าวเข้าสู่การเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีในเวลาต่อมา
จริง ๆ อาจจะต้องขอบคุณเวลาในตอนนั้น หากสตีฟ จ็อบไม่ถูกไล่ออก คงไม่ได้เห็นเวิร์ลไวด์เว็บในปัจจุบันกับการ์ตูนจากค่าย pixar โลดแล่นกันอยู่อย่างทุกวันนี้ และแม้ว่าเขาจะถูกไล่ออกไปพักหนึ่งจนไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อ แต่สุดท้ายทาง Apple ก็ต้องกลับมาง้อเขาอยู่ดี เข้าทำนอง หัวเราะทีหลังดีกว่านั่นแล
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : medium, businessinsider, wikipedia, abcnews ด้วยครับ
